ไฟ ดิน ลม น้ำ ปฐมบทของโหราศาสตร์
โดย Phainon
phainon@horauranian.com
2 กันยายน 2554
บทนำ
"ไฟ ดิน ลม น้ำ เรื่องธาตุทั้งสี่" เป็นพื้นฐานของวิชาโหราศาสตร์ "ธาตุ" จะแสดงถึงความสามารถในการแลกเปลี่ยน การมีส่วนร่วม หรือ รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชะตา และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ความหมายของธาตุแฝงอยู่ในโหราศาสตร์แทบทั้งสิ้น เช่น เมื่อธาตุทั้งสี่ ถูกนำไปผสมผสานกับคุณะทั้งสาม เกิดเป็นความหมาย 12 ราศี และส่งถ่ายไปยัง 12 เรือนชะตา และยังมีแฝงความหมายอยู่ในเรื่อง มุมสัมพันธ์ เช่นกัน
นอกจากนักศึกษาโหราศาสตร์สามารถนำความหมายธาตุไปใช้ผสมผสานในการพยากรณ์ได้อย่างกว้างขวางแล้ว ในระดับบุคคลทั่วไปยังสามารถนำเทคนิคการหาธาตุเด่นในดวงชะตา เพื่อเรียนรู้กรอบแนวคิด รูปแบบของแต่ละธาตุประยุกต์ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆได้มากมาย
ความหมายทั่วไปของธาตุ
ธาตุทั้งสี่ในทางโหราศาสตร์ กับธาตุในวิชาเคมี เป็นคนละเรื่องกันเลยนะครับ "ธาตุ" เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของทุกสิ่งในโหราศาสตร์ ซึ่งหากเข้าใจลักษณะ และคุณสมบัติของธาตุแต่ละธาตุนั้น จะพบว่าเป็นการเปรียบเทียบมาจากฤดูกาลทั้ง 4 นั้นเอง ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ เทียบเท่ากับ ธาตุไฟ, ฤดูร้อน เทียบเท่ากับ ธาตุน้ำ, ฤดูใบไม้ร่วง เทียบเท่ากับ ธาตุลม, ฤดูหนาว เทียบเท่ากับ ธาตุดิน (หากศึกษาทรงกลมฟ้าให้ละเอียดจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นนะครับ จึงใคร่ขอฝากเพื่อนๆนักศึกษาโหราศาสตร์ค้นคว้าเพิ่มเติม)
ธาตุ เปรียบเสมือนพลังงานอย่างหนึ่ง ที่แสดงถึงความสามารถในการแลกเปลี่ยน การมีส่วนร่วม หรือ รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ของเจ้าชะตา พลังงานพื้นฐานสำคัญของมนุษย์ถูกส่งผ่าน ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุลม และธาตุน้ำ ซึ่งแต่ละคนอาจรับรู้ และสามารถใช้พลังงานธาตุใดธาตุหนึ่งได้แตกต่างกัน
หากจะศึกษาให้ครบถ้วนต้องกล่าวถึง คุณะ (Mode or Qualities) ทั้ง 3 ด้วย จรราศี (Cardinal), สถิรราศี (Fixed) และ อุภยราศี (Mutable) คุณะเปรียบได้กับระดับในการแสดงออกของพลังงาน หรือธาตุนั้นเอง จรราศี(Cardinal) แรงสุด ไม่มีการยับยั้ง สถิรราศี(Fixed) แรงปานกลาง สม่ำเสมอ และอุภยราศี (Mutable) แรงน้อยที่สุด เป็นระยะๆ ซึ่งที่มาของความหมายก็มาจากปรากฏการณ์ของฤดูกาลเช่นเดียวกัน
โดยกว้างๆธาตุทั้งสี่ ไฟ ดิน ลม น้ำ ยังสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน
กลุ่มแรก คือ ธาตุฝ่ายรุก (Active) แสดงตัวตนออกมา (Self-expressive) ได้แก่ ธาตุไฟ และ ธาตุลม
กลุ่มสอง คือ ธาตุฝ่ายรับ (Passive) ควบคุมความรู้สึก (Self-Containing) ได้แก่ ธาตุน้ำ และ ธาตุดิน
จะเห็นว่าธาตุเดียวกัน หรืออยู่ในกลุ่มเดียวกัน จะมีรูปแบบการแสดงออกที่คล้ายคลึงกัน จึงมีความเข้ากันได้ดี จากปรัชญานี้จึงได้ ธาตุไฟเป็นมิตร หรือเข้ากันได้กับธาตุลม หรือ ธาตุน้ำเป็นมิตร หรือเข้ากันได้กับธาตุดิน ในทางตรงข้าม บางตำราถึงกล่าวว่า ธาตุไฟ กับ ธาตุน้ำ หรือ ธาตุลม กับธาตุดิน ไม่ถูกกัน อาจจะกล่าวว่าเป็นอริ หรือศัตรูกันเลยทีเดียว ในความคิดส่วนตัว ผมมองว่าใช้คำรุนแรงไปหน่อย แต่ก็ง่ายต่อการจดจำ สาเหตุเพราะว่ารูปแบบที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่น
การคำนวนกำลังของธาตุในดวงชะตา
อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า แต่ละคนจะสามารถรับรู้ และใช้พลังงานของธาตุได้แตกต่างกัน การค้นหาว่าในดวงชะตานั้นมีธาตุใดแสดงผลมากที่สุด เราจะพิจารณาจากธาตุใดมีกำลังมากกว่ากัน
วิธีการหากำลังของธาตุนั้น มีหลากหลายตำรามาก แต่หลักการที่สำคัญตรงกัน คือ การพิจารณาว่า ดาว หรือปัจจัย อยู่ในราศีธาตุใดมากที่สุด ซึ่งตรงนี้ การให้ค่ากำลังของดาว หรือปัจจัย แต่ละตำราต่างกันละครับ ยกตัวอย่างเช่น บางตำราให้ค่าดาว หรือปัจจัยที่เคลื่อนที่เร็ว มีค่ากำลังมากกว่า ดาวที่เคลื่อนที่ ช้า (ในโปรแกรม Solar Fire ใช้แบบนี้ ให้คะแนน อาทิตย์ จันทร์ ลัคนา เมอริเดียน เท่ากับ 3, พุธ ศุกร์ อังคาร เท่ากับ 2, พฤหัส เสาร์ ยูเรนัส เนปจูน พลูโต เท่ากับ 1 คะแนน) หรือ บางตำราก็ให้เรื่องคุณภาพของดาวในแต่ละราศีมาเกี่ยวข้องด้วย เช่น การเป็นอุจน์ เกษตร จะให้ค่ากำลังมากขึ้น
เท่าที่ผู้เขียนทดลองใช้ ในแต่ละวิธี ผลลัพท์ที่ได้ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก ซึ่งในโอกาศนี้จะขออธิบายวิธีโบราณ ที่ง่ายและไม่ซับซ้อน สามารถคำนวนได้ง่าย ไม่ต้องใช้โปรแกรมก็ได้
วิธีการนี้ จะมีค่ากำลัง หรือคะแนนทั้งหมด 14 คะแนน โดยให้ ราศีที่อาทิตย์ และจันทร์ อยู่ ราศีละ 2 คะแนน ส่วนดาวและปัจจัยอื่น ลัคนา เมอริเดียน ให้แค่ 1 คะแนน ซึ่งไม่รวมราหูมาคำนวน
ในกรณีที่มีดาวอยู่ในตำแหน่ง 29 องศาขึ้นไป ให้คิดราศีปัจจุบันเพียงครึ่งเดียว และแบ่งคะแนนครึ่งหนึ่งไปราศีถัดไป
ถ้าธาตุใดมีกำลังมากกว่า 5 คะแนน ถือว่าเป็นธาตุเด่น ถ้าได้มากกว่า 6 คะแนนขึ้นไปถือว่า ธาตุเด่นมากเป็นพิเศษ ในทำนองกลับกัน ถ้าธาตุใดมีกำลังน้อยกว่า 2 ถือว่าเป็นธาตุที่อ่อนแอ และถ้าได้ 1-0 อาจจะถือได้ว่าขาดพลังงานในธาตุนั้น
ความหมายทั่วไปของแต่ละธาตุ
ธาตุไฟ
ประกอบด้วย ราศีเมษ ราศีสิงห์ และราศีธนู
ความหมายทั่วไป : กระตือรือร้น กระตือรือร้น คึกคะนอง มั่นใจในตัวเอง เข้มข้น หนาแน่น แรงกล้า ใหญ่โต กระปรี้กระเปร่า ที่กระตุ้น อิสระ ห่าม ที่เร้าใจ ในอุดมคติ ความคิดสร้างสรรค์ มองโลกในแง่ดี มีแรงจูงใจ อัตนัย
ธาตุดิน
ประกอบด้วย ราศีมกร ราศีพฤษก และราศีกันย์
ความหมายทั่วไป : มองความเป็นจริง สามารถปฏิบัติได้จริง เน้นประสิทธิผล อดทน มั่นคง เชื่อมั่น ยึดมั่น ยั่งยืน ติดดิน วัตถุนิยม พิถีพิถัน ถี่ถ้วน ตามระเบียบ แบบแผน ความปลอดภัย มีเสถียรภาพ
ธาตุลม
ประกอบด้วย ราศีตุลย์ ราศีกุมภ์ และราศีมิถุน
ความหมายทั่วไป : ความรู้ ปัญญา การสังเกตุ ไม่เด็ดขาด ลังเล ไม่แน่ใจ การตั้งคำถาม ช่างพูด ปฏิสัมพันธ์ ความร่วมมือ แนวคิด ไม่ยึดติด จับต้องได้ยาก ไม่ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง การสังเคราะห์
ธาตุน้ำ
ประกอบด้วย ราศีกรกฏ ราศีพิจิก และราศีมีน
ความหมายทั่วไป : อารมณ์อ่อนไหว ละเอียดอ่อน เปราะ เรื่องส่วนตัว การดูแล เอาใจใส่ ตอบสนอง ขึ้นอยู่กับ การป้องกัน จินตนาการ ความลับ สัญชาตญาณ ซ่อนเร้น พาสซีฟ ที่อุดมไปด้วย
ธาตุที่เด่นมากเป็นพิเศษ (มากกว่า 6 คะแนน)
หากธาตุใดเด่นมากเป็นพิเศษ ธาตุนั้นจะแสดงพลังงานออกมาอย่างเต็มที่ ชัดเจน และอาจมากเกินไป ในการแปลความหมายของกรณีนี้คือ ใช้ความหมายของธาตุนั้น และเพิ่มคำว่า มากเกินไป ในความหมายดังกล่าว
ผู้ที่มีธาตุไฟเด่นมากเป็นพิเศษ จะพยายามควบคุม หรือเร่ง หรือทุ่มเท่พลังงานทั้งหมดกับกิจกรรมตนเองมากเกินไป และยากในการรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่าง บุคคลอื่นเป็นส่วนๆ แยกจากความต้องการ และความปราถนาของตนเอง
ผู้ที่มีธาตุดินเด่นมากเป็นพิเศษ จะกังวลในรายละเอียด และผลลัพท์ในเชิงรูปธรรมมาก เขามักทำกิจกรรมเดิมๆซ้ำๆ หากเขารู้สึกว่าสิ่งนั้นเหมาะกับเขา สิ่งแวดล้อม หรือรู้สึกมีความสุข
ผู้ที่มีธาตุลมเด่นมากเป็นพิเศษ มักจะอยู่ในความคิดตลอดเวลา มองหาความรู้ใหม่ๆ และพยายามถ่ายทอดแนวคิดของเขากับผู้อื่น จะประสบความสำเร็จดีในด้านการติดต่อสื่อสาร และปฏิสัมพันธ์กับสังคมทั่วไป
ผู้ที่มีธาตุน้ำเด่นมากเป็นพิเศษ มักจะตกอยู่กับความรู้สึกของตนเอง หรือผู้อื่น และไม่สามารถแยกแยะความรู้สึกนั้นออกจากกันได้ และเป็นคนที่มีความอ่อนไหวมาก จุดเด่นอย่างหนึ่งคือ สามารถตอบสนองความต้องการของคนอื่นในด้านจิตใจได้ดี เข้าใจ เห็นใจและเต็มด้วยความเมตตา
ธาตุที่ขาดหาย หรือมีกำลังน้อย (0-1 คะแนน)
ในกรณีที่ไม่มีธาตุนั้นเลย แปลง่ายๆว่า เขาปรารถนาอย่างยิ่งในการแสดงออกในธาตุนั้นๆ ทั้งโดยธรรมชาติแล้วเขาปราศจากความสามารถด้านนั้น สาเหตุเนื่องจากคนที่ขาดธาตุนั้น หรือมีน้อย จะไม่ได้พัฒนาลักษณะหรือบุคลิกของธาตุนั้นขึ้นมา เขาจึงมักรู้สึกว่าเขาขาดสิ่งนั้น และมุ่งมั่นพยายามเอาชนะ เพื่อชดเชยธรรมชาติที่ขาดหายไป กลายมาเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของเจ้าชะตา อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่จะแสดงออกในธาตุนั้น เขามักจะใช้ความพยายามมากเกิดไป จนสร้างปัญหาให้กับตนเองในที่สุด
ผู้ที่ขาดธาตุไฟ มีลักษณะเด่นทั่วไป เช่น มองโลกในแง่ร้าย ขาดศรัทธา ไม่มีแรงบันดาลใจ เฉื่อยชา หมดกำลังใจ สงบนิ่ง
แม้ว่าผู้ที่ขาดธาตุไฟ จะขาดความสามารถในการแสดงออกตัวตน ถ้าหากไม่เป็นคนประเภทเก็บตัวเอง หรือไม่ก็แสดงออกมากเกินกว่าปกติ เขาอาจจะอยู่ในความวุ่นวายของกิจกรรมที่ไม่ให้ความสำคัญ หรือไม่ก็แสดงออกในทางตรงข้าม กลายเป็นหมกหมุ่นกับเรื่องของตัวเอง
เพราะเขามักไม่รู้สึก หรือไม่กระตือรือร้นกับโอกาศใหม่ๆ เขาอาจจะมองผู้อื่นเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และแรงจูงใจ เขามักไม่รู้สึกดิ้นรน ไม่มีปฏิกิริยา ถอน และไม่เกี่ยวข้อง เขามองหาการมีส่วนร่วมในเชิงลึกส่วนบุคคล และอารมณ์ในชีวิต
ผู้ที่ขาดธาตุดิน มีลักษณะเด่นทั่วไป ได้แก่ เพ้อฝัน ปฏิบัติไม่ได้ ไม่เกิดผล ไร้รูปแบบการจัดการ ต้องการความปลอดภัย ไม่มั่นคง ทำตามแรงผลักดันทางใจ
เขามักพัฒนาทักษะอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ อาจย้ายงานบ่อย ไม่อยู่กับที่ หรือ ไม่กลัวเรื่องการเป็นหนี้เป็นสิน ในทางตรงข้าม ผู้ที่ขาดธาตุดิน อาจจะสุดโต่งในการปฏิบัติ จู้จี้ในเรื่องรายละเอียดเล็กๆ สนใจสิ่งเล็กๆน้อยๆเกียวกับการเงิน
สาเหตุจากผู้ที่ขาดธาตุดิน จะรู้สึกขาดความมั่นคง และจะมองหาความปลอดภัยโดยการยึดมั่นกับบางสิ่งบางอย่าง เช่น องค์กรที่มีความมั่นคงที่เชื่อถือได้ กฏระเบียบ กิจวัตรประจำวันเดิมๆ
ผู้ที่ขาดธาตุลม มีลักษณะเด่น ได้แก่ ความคิดเป็นส่วนตัว ไม่เชื่อมต่อ ตัดขาดจากการติดต่อ เรียบๆ ไม่ซับซ้อน ตรวจสอบอย่างละเอียด โดดเดี่ยว
ผู้ที่ขาดธาตุลมมักจะต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมทั่วไป อาจจะชอบแสดงออกในช่องทางอื่นที่ไม่ใช่การพูดคุย เช่นอาจจะผ่านการเขียน หรือรูปแบบอื่น เขามักเรียนรู้สิ่งต่างๆจากประสบการณ์เป็นหลัก และมักมีปัญหาในการสรุปกรอบ และอธิบายแนวความคิดของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างง่ายๆ
การที่เขาขาดความสามารถในการมองข้อเท็จจริงต่างๆให้เป็นรูปธรรม จึงใช้วิธีการเข้าใจผ่านการตอบสนองของผู้อื่นแทน
ผู้ที่ขาดธาตุน้ำ มีลักษณะเด่น ได้แก่ ถูกควบคุม เฉื่อยชา ไร้ชีวิตชีวา ไม่ปลอดภัย ปิดกั้น เมินเฉย ไม่ใส่ใจ
ผู้ที่ขาดธาตุน้ำมักมุ่งไปทางความเชื่อด้านจิตวิญญาณ ศาสนา หรือ ปรัชญา เขาพยายามค้นหาความหมายการดำรงอยู่ของตน หรือ เป็นการเติมเต็มด้านอารมณ์ ซึ่งเขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ในระดับส่วนตัวนั้นขาดหายไป ผู้ที่ขาดธาตุน้ำมักมีปัญหาในการรับรู้ รู้สึก ใกล้ชิด หรือแสดงความรู้สึกของตนเอง ทำให้นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้องมากเกินไป หรือ ติดอยู่กับความตื่นเต้น หรือความรุนแรงได้
เหตุผลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง คือ เขาไม่สามารถรับรู้ และตอบสนองอารมณ์ร่วมกับความรู้สึกของผู้อื่นได้ แต่ก็ต้องการแสดงออกว่าเขาสนใจ และใส่ใจผู้อื่น จึงแสดงออกด้านความช่วยเหลือ หรือการอุปถัมภ์แบบอื่นทดแทน เช่น ทำอาหาร การเลี้ยงดู เอาใจใส่ หรือแสดงความห่วงใย หรือกระวนกระวายมากเกินไป
ตัวอย่างการคำนวนกำลังดาว และการตีความหมายธาตุเด่นในดวงชะตา
เริ่มแรก ก็ต้องคำนวนตำแหน่งดาว และปัจจัยในดวงชะตาขึ้นมาเสียก่อน ในกรณีที่ท่านไม่มีโปรแกรมสำหรับคำนวน อาจจะใช้บริการคำนวนดวงชะตาจากเวปไซต์ทางโหราศาสตร์ชั้นนำทั่วไปได้ เช่น http://www.astro.com/cgi/ade.cgi? เป็นต้น
เจ้าชะตาเกิดที่กรุงเทพ วันที่ 22 กันยายน 2523 เวลา 16:10 คำนวนดวงชะตาได้ดังรูปด้านล่างนี้
ดาว/ปัจจัย |
ตำแหน่ง |
ธาตุไฟ |
ธาตุดิน |
ธาตุลม |
ธาตุน้ำ |
อาทิตย์ |
29 กันย์ 30 |
|
1 |
1 |
|
จันทร์ |
29 กุมภ์ 49 |
|
|
1 |
1 |
พุธ |
19 ตุลย์ 18 |
|
|
1 |
|
ศุกร์ |
15 สิงห์ 47 |
1 |
|
|
|
อังคาร |
16 พิจิก 06 |
|
|
|
1 |
พฤหัส |
22 กันย์ 41 |
|
1 |
|
|
เสาร์ |
00 ตุลย์ 06 |
|
|
1 |
|
ยูเรนัส |
22 พิจิก 42 |
|
|
|
1 |
เนปจูน |
20 ธนู 01 |
1 |
|
|
|
พลูโต |
20 ตุลย์ 48 |
|
|
1 |
|
ลัคนา |
23 กุมภ์ 49 |
|
|
1 |
|
เมอริเดียน |
01 ธนู 31 |
1 |
|
|
|
|
รวม |
3 |
2 |
6 |
3 |
จะเห็นว่า อาทิตย์ และจันทร์ของเจ้าชะตา อยู่ในตำแหน่ง 29 องศา ดังนั้น จึงแบ่งคะแนนไปให้ราศีครึ่งหนึ่ง อาทิตย์มี 2 คะแนน สถิตย์อยู่ราศีกันย์ ธาตุดิน ก็ได้คะแนนเพียง 1 คะแนน และแบ่งไปให้ราศีตุลย์ ธาตุลม อีก 1 คะแนน เช่นเดียวกับจันทร์มี2 คะแนน สถิตย์อยู่ในราศีกุมภ์ ธาตุลม ก็ได้เพียง 1 คะแนน และแบ่งไปให้ราศีมีน ธาตุน้ำ อีก 1 คะแนน
ดวงชะตานี้ธาตุลมมีกำลังสูงสุด และเด่นมากเป็นพิเศษเพราะมากถึง 6 คะแนน และมีธาตุดินกำลังอ่อนสุด 2 คะแนน
ดังนั้นเจ้าชะตาจะแสดงออกในธาตุลมเต็มที่ การตีความก็ใช้ความหมายทั่วไปของธาตุลมและเพิ่มดีกรี มากเกินไป ดังที่กล่าวมาแล้ว จะได้ว่า เจ้าชะตาเป็นคนมองหาองค์ความรู้ใหม่ๆ มีปัญญามาก และพยายามถ่ายทอดความคิดของตนเองให้กับผู้อื่น ชอบการปฏิสัมพันธ์กับสังคม การติดต่อสื่อสารประสบความสำเร็จดี ช่างสังเกตุ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ในบางครั้งแนวคิดอาจสับสนหรือยุ่งยากเกินความจำเป็น
ในขณะที่ธาตุดินมีกำลังอ่อน เจ้าชะตาจึงอาจจะหย่อนเรื่องความละเอียด ไม่สนใจในเรื่องเล็กๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่เน้นเรื่องวัตถุสิ่งของ หรือการสะสมสิ่งมีค่า อาจมองสิ่งต่างๆในเชิงอุดมคติ
ถ้าหากเราต้องการแปลความให้หลากหลายมากขึ้น ก็อาจจะพิจารณาในระดับจุดเจ้าชะตาได้ว่าเป็นอย่างไร อยู่ในราศีธาตุใด หรือสัมพันธ์ถึงดาวใด ที่มีลักษณะเด่นเป็นธาตุใด เช่น อาทิตย์ ได้รับพลังงานทั้ง ธาตุดิน และธาตุลม เพราะอยู่ช่วง 29 กันย์ และกุมกับเสาร์ เกือบองศา สนิท ซึ่งมีลักษณะเด่นของธาตุดิน เราก็สามารถเพิ่มเติมลงไปได้อีกว่า แม้เจ้าชะตาไม่สนใจในรายละเอียด ไม่ยึดติดสิ่งใดในกรอบพลังงานของธาตุหลักนั้น ก็ยังมีพฤติกรรม หรือการแสดงออกที่ต้องการผลลัพท์เป็นรูปธรรม และดำเนินชีวิตในสิ่งที่สามารถปฏิบัติได้ เป็นต้น
บทสรุป
จากประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่าโหรรุ่นใหญ่ๆแต่ละท่านนั้น ได้ผสมผสานความหมายธาตุแฝงไว้ในคำพยากรณ์ได้อย่างลึกซึ้ง จนผู้เขียนอดทึ่งไม่ได้ว่า สิ่งที่ดูเรียบง่าย พื้นฐานเช่นนี้ สามารถนำมาใช้งานได้อย่างดียิ่ง เพราะเราสามารถเข้าใจกรอบใหญ่ เข้าใจลักษณะและรูปแบบการแสดงออกของเจ้าชะตาได้ นอกจากนั้น เรายังสามารถประยุกต์เรื่องธาตุไปปรับใช้ได้กับชีวิตประจำวัน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งในเชิงการบริหาร เช่น บริหารบุคลากร การพัฒนาบุคลากร การประสานงาน เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
1. Tracy Marks; The Art of Chart Interpretation, (CRCS Publications, 1950)
2. Stephen Arroyo; Chart Interpretation Handbook, (CRCS Publications, 1989)
3. Bil Tierney; All Around The Zodiac, (Llewellyn Publications, 2001)
4. Marion D, March and Joan McEvers; The Only Way To Learn Astrology Vol 1-2-3, (ACS Publications, 2008)